นครไทยที่คุณต้องรู้จัก....
ถ้าอ่านจบแล้วคุณอาจจะยังไม่เข้าใจว่าจะต้องรู้จักนครไทยไปทำไม ผมบอกก่อนจะอ่านก็แล้วกัน (บางทีคุณอาจจะเผลอผ่านเข้ามา) นครไทยเป็นเมืองที่พ่อขุนบางกลางท่าว เจ้าเมืองบางยาง (นครไทย) ปฐมกษัตริย์ของไทย (รู้จักกันดีในพระนาม พ่อขุนศรีอินทราทิตย์) ใช้เป็นที่รวบรวมไพร่พลไปโจมตีขอมสบาดโขลญลำพงที่ศรีสัชชนาลัยและสุโขทัย พร้อมด้วยสหายศึกและเป็นพระญาติที่ใกล้ชิดคือ พ่อขุนผาเมืองเจ้าเมืองราด (หล่มสัก) สถาปนาสุโขทัยเป็นราชธานี ประวัติศาสตร์ชาติไทยจึงเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ ถึงจะมีใครค้านหรือเห็นเป็นอย่างอื่นก็ตาม แต่หน้าประวัติศาสตร์ของไทยก็เริ่มขึ้นตรงนี้ เราเรียนประวัติศาสตร์กันมาตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาแล้ว BLOG นี้ จึงไม่ได้เขียนประวัติศาสตร์ขึ้นใหม่ ซึ่งน้อยคนนักที่จะรู้จักเมืองในหุบเขาแห่งนี้ในเชิงประวัติศาสตร์ แต่นครไทยก็เป็นเมืองในประวัติศาสตร์ที่สำำคัญยิ่ง ถึงเวลาจะผ่านไปแล้วถึง 700 กว่าปีก็ตาม
อ้าว..เริ่มเลย.............
อ้าว..เริ่มเลย.............
1.นครไทยสมัยก่อนประวัติศาสตร์ จากหลักฐานทางด้านโบราณคดีได้ปรากฏการตั้งถิ่นฐานและสร้างสรรค์วัฒนธรรมของชุมชนนครไทย ว่าเป็นชุมชนที่มีมนุษย์อาศัยอยู่ ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์โดยในระยะแรกๆ ตั้งถิ่นฐานกระจายอยู่ทั่วไปตามเพิงผา ถ้ำ ภูเขาและริมสายธารน้ำ มีการค้นพบเครื่องมือประเภทขวานหินขัด ขวานหินมีด้าม ขวานสำริด และศิลปกรรมที่เด่นคือภาพแกะสลักที่ถ้ำกา เขาช้างล้วง ตำบลนครไทย และที่หน้าผาขีด อำเภอนครไทย ซึ่งเป็นภาพแกะสลัก เป็นลายเส้นและรูปกากบาทพาดกันไปมาบนผนังถ้ำ ซึ่งคล้ายกับภาพแกะสลักที่เทือกเขาภูพาน อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ภาพแกะสลักนี้ได้รับการสันนิษฐานว่าเป็นภาพแกะสลักของมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ยุคโลหะ
เครื่องมือเครื่องใช้ของผู้คนในยุคโบราณ |
รอยขีดเขียนในผนังถ้า้ำกา บนเขาช้างล้วง |
เขาช้างล้วงภูเขาศักดิ์สิทธิ์ อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของนครไทย |
จากการขุดค้นทางด้านโบราณคดีของอาจารย์ปราณี แจ่มขุนเทียน เมื่อปี พ.ศ.2527จากหลักฐานที่ค้นพบทำให้สามารถสรุปได้ว่า ชุมชนนครไทยเป็นชุมชนที่มีคนเข้ามาตั้งถิ่นฐานอาศัยอยู่ ราวพุทธศักราช 1711 ซึ่งเป็นระยะก่อนการสถาปนา กรุงสุโขทัยเป็นราชธานี ประมาณ 110 ปี
ผังเมืองโบราณของนครไทย |
เครื่องปั้นดินเผาในยุคก่อนของนครไทย |
2.นครไทยสมัยสุโขทัย ชุมชนนครไทย ได้พัฒนาการมีความเจริญระดับชุมชนเมือง จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่าเมืองนครไทย ได้ปรากฏชื่อครั้งแรกในจารึกวัดมหาธาตุ วัดสระศรี หลักที่ 7 ก, จารึกวัดเขากบหลักที่ 11 และปรากฏชื่อในจารึกหลักที่ 93 ภาษาบาลี ว่า "นครเทยย" นอกจากนั้นยังปรากฎชื่อในจารึกวัดบูรพาราม หลักที่ 286 ด้านที่ 1 ที่กล่าวถึงการขยายอาณาเขตของกษัตริย์สุโขทัยในปีพ.ศ.1939 ว่า
“เบื้องข้างหนอุดร ลุนครไท...” และด้านที่ 2 เป็นภาษาบาลี กล่าวถึง ”ปุพเพ นครเทยยก” จากหลักฐานดังกล่าวแสดงว่านครไทยเป็นเมืองที่ปรากฏชื่ออยู่ในทำเนียบของเมืองอยู่ในอาณา เขตของอาณาจักรสุโขทัยแล้ว โดยมีฐานะเป็นเมืองที่ขึ้นอยู่กับอาณาจักรสุโขทัย
อนุสาวรีย์พ่อขุนบางกลางท่าว ประดิษฐาน ณ วัดกลาง นครไทย เบื้องหลังคือต้นจำปาขาวที่พระองค์ทรงปลูกเสี่ยงทายไว้ เมื่อ 700 ปีก่อน ปัจจุบันก็ยังคงยืนต้นสวยงามอยู่ |
3.นครไทยสมัยอยุธยา ในสมัยอยุธยาตอนต้น ปรากฏหลักฐานเกี่ยวกับเมืองนครไทย คือ พงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐฯ ว่า “ศักราช 824 มะเมียศก (พ.ศ. 2005) เมืองนครไทยพาเอาครอบครัวหนีไปเมืองน่าน และให้พระยากลาโหมไปตามคืนมาได้ “ จากหลักฐานดังกล่าว แสดงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างเมืองนครไทยกับเมืองน่าน ทำให้ในสงครามการสู้รบระหว่างพระเจ้าติโลกราชแห่งอาณาจักรล้านนาและพระบรมไตรโลกนาถ และพระเจ้าติโลกราชได้ร่วมมือกับ เจ้าเมืองเชลียงได้นำทัพจากเมืองเชียงใหม่มาปล้นพิษณุโลกและกำแพงเพชร จากสงครามที่เกิดขึ้นเมืองนครไทย คงได้รับผล กระทบจึงได้อพยพครัวหนีภัยสงครามไปเมืองน่าน ทำให้เมืองนครไทยร้างไปช่วงหนึ่ง จนกระทั่งฝ่ายอยุธยาขึ้นไปยึดครองกวาดต้อนกลับมา จึงสร้างเมืองนครไทยใหม่อีกครั้งหนึ่ง ดังที่พระราชพงศาวดารฉบับหลวงประเสริฐได้กล่าวว่า ในปี พ.ศ.2020 “แรกตั้งเมืองนครไทย”
นอกจากนี้ยังได้พบหลักฐานที่กล่าวถึงดินแดนนครไทย ในสมัยอยุธยามีฐานะเป็นเมืองหน้าด่านด้านลาวของกรุงศรีอยุธยา และเป็นดินแดนที่อยู่กึ่งกลางระหว่าง อาณาจักรลานช้างหรือกรุงศรีสัตตนาคนหุตกับอยุธยา ดังปรากฏหลักฐานของอาณาจักรล้านช้าง ที่กล่าวถึงในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 แห่งกรุงศรีอยุธยา และพระเจ้าฟ้างุ้ม ได้มีพระราชสาส์นแบ่งดินแดนกันระหว่างสองอาณาจักร หลักฐานของฝ่ายลาวมีข้อความว่า "เฮาหากแม่นอ้ายน้องกันมา (ตั้งแต่ขุนบุลม(บรม) พุ้นเจ้า(หมายถึงพระเจ้าอู่ทอง)อยากได้บ้านเมืองเอาเขตแดนภูสามเส้า เมื่อเท้าเถิงภูพระยาพ่อแดนเมืองนครไทยพุ้น" นอกจากนี้ เหตุการณ์ในประวัติศาสตร์อยุธยา แสดงให้เห็นถึงสถานภาพของเมืองนครไทย มีฐานะเป็นเมืองหน้าด่านด้านลาวของกรุงศรีอยุธยา ดังปรากฏว่าในปี พ.ศ.2110 พระชัยเชษฐาธิราชแห่งกรุงศรีสัตนาคนหุตยกทัพมาตีพิษณุโลก เพื่อปราบพระมหาธรรมราชา ได้ยกกองทัพเข้ามา ทางเมืองนครไทย จึงกล่าวได้ว่าในสมัยอยุธยาเมืองนครไทยคงมีฐานะเป็นเมืองเรื่อยมา
4.นครไทยในสมัยรัตนโกสินทร์ จากจดหมายเหตุรัชกาลที่ 3 เมืองนครไทยมีฐานะเป็นเมืองขึ้นของเมืองพิษณุโลก ที่มีฐานะเป็นหัวเมืองเอกของเมืองฝ่ายเหนือ
ในสมัยรัชกาลที่ 5 ก่อนการปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน เมืองนครไทย ยังคงมีฐานะเป็นเมืองขึ้นของเมืองพิษณุโลกอยู่ ดังปรากฏหลักฐาน ในใบบอกคำรายงานของพระอินทร์คีรีรัตนบุรีปกาสัยเจ้าเมืองนครไทย ได้กล่าวว่า "ข้าพเจ้ากรมการ นายหมวดนายกอง ขุนหมื่นตัวไพร่ เลขศักคงเมืองนครไทย ทำราชการหัวเมืองขึ้นกับเมืองพระพิศะณุโลกย์"
เมื่อจัดการปกครองรูปแบบเทศาภิบาล มณฑลพิษณุโลกได้จัดตั้งขึ้น ในปี พ.ศ.2433 เมืองนครไทยถูกลดฐานะลงมาเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดพิษณุโลก และแต่งตั้งนายอำเภอขึ้นเป็นผู้ปกครอง นายอำเภอคนแรกชื่อหลวงพิทักษ์กิจบุรเทศ (เป๋า บุญรัตนพันธ์) มาดำรงตำแหน่งปี พ.ศ.2433–435
จากที่กล่าวมา เมืองนครไทย มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด สาเหตุที่เมืองนครไทย สามารถพัฒนาชุมชนของตนเองจนกลายเป็นเมืองและคงความสำคัญมีบทบาทในหน้าประวัติศาสตร์เรื่อยมา น่าจะมีเหตุผลสืบเนื่องจากปัจจัยที่สำคัญ 2 ประการ คือ
1.เมืองนครไทย เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนเส้นทางการค้าและเส้นทางการเดินทางระหว่างอาณาจักรตอนใน คือ สุโขทัย และอยุธยากับอาณาจักรลานช้างและหัวเมืองต่างๆในลุ่มแม่น้ำโขง โดยนครไทยมีฐานะเป็นเมืองหน้าด่าน
2.นครไทยเป็นแหล่งที่มีสินค้า ซึ่งเป็นที่ต้องการของรัฐสุโขทัยและอยุธยาตลอดจนเมืองอื่นๆ คือ เกลือ และของป่า โดยเฉพาะเกลือ นครไทยมีบ่อเกลือ ซึ่งถือว่าเป็นแร่ธาตุที่มีความสำคัญมากในการดำเนินชีวิตของคนในอดีต และปัจจุบันนี้ การผลิตเกลือที่ตำบลบ่อโพธิ์ยังคงมีการผลิตกันอยู่
ในด้านประวัติศาสตร์บอกเล่า ชาวนครไทยเชื่อว่า เมืองนครไทย คือเมืองบางยางที่พ่อขุนบางกลางหาวหรือพ่อขุนบางกลางท่าว ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงค์พระร่วงมาปกครอง เพื่อซ่องสุมผู้คนและไพร่พล รวบรวมกองทัพให้เข้มแข็ง ก่อนจะไปยึดเมืองสุโขทัย จากความเชื่อดังกล่าวทำให้มีตำนานสถานที่ต่างๆ ของนครไทย ที่เกี่ยวข้องกับชีวประวัติของพ่อขุนบางกลางหาวแห่งกรุงสุโขทัยอยู่หลายเรื่อง
ในหน้าประวัติศาสตร์ยุคสงครามเย็น คือ นครไทยคือพื้นที่สีแดงที่พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พ.ค.ท.) ใช้พื้นที่ภูหินร่องกล้า เป็นฐานกำลังขนาดใหญ่ซ่องสุมผู้คนต่อสู้อำนาจรัฐบาลไทยในช่วง พ.ศ.2511-2525 มีคนไทยต่างอุดมการณ์ต้องบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมากในสมรภูมิแห่งนี้ ภายหลังที่การต่อสู้อันนองเลือดสงบลง อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ท้องที่ตำบลเนินเพิ่ม อำเภอนครไทย ก็กลายเป็นอุทยานแห่งชาติที่มีชื่อเสียงในลำดับต้นๆ ของประเทศไทย มีแขกมาเยี่ยมเยียนในฤดูหนาวอย่างล้นหลาม
ในหน้าประวัติศาสตร์ยุคสงครามเย็น คือ นครไทยคือพื้นที่สีแดงที่พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พ.ค.ท.) ใช้พื้นที่ภูหินร่องกล้า เป็นฐานกำลังขนาดใหญ่ซ่องสุมผู้คนต่อสู้อำนาจรัฐบาลไทยในช่วง พ.ศ.2511-2525 มีคนไทยต่างอุดมการณ์ต้องบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมากในสมรภูมิแห่งนี้ ภายหลังที่การต่อสู้อันนองเลือดสงบลง อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ท้องที่ตำบลเนินเพิ่ม อำเภอนครไทย ก็กลายเป็นอุทยานแห่งชาติที่มีชื่อเสียงในลำดับต้นๆ ของประเทศไทย มีแขกมาเยี่ยมเยียนในฤดูหนาวอย่างล้นหลาม
ขออนุญาตเจ้าของภาพนะครับ ภาพนี้ ฮ.ฮวอี้กำลังลำเลียงทหาร ไปสมรภูมิเขาค้อ ซึ่งไม่ใกล้ไม่ไกลจากภูหิืนร่องกล้ามากนัก |
บนสมรภูมิภูหินร่องกล้า มีหลายยุทธการที่ใช้โจมดี ผกค. ผมชอบใช้คำว่า "นครไทยในยุคสงครามเย็น" ผมว่ามันเท่ห์มาก.....ว่ามั้ย |
ต้องขอบคุณเจ้าของภาพมากครับ ที่ให้ผมละเมิดเอาภาพนี้มาลง ขอให้คิดเสียว่า ยังไงนครไทยมันก็บ้านผมเอง |
ข้อมูล/ภาพ บางส่วน : อ.สุภาพรรณ วงศ์สมบัติ
ครู คศ.3 โรงเรียนนครไทย
ครู คศ.3 โรงเรียนนครไทย
เรียบเรียง/ต่อเติม/แต่งเติม : สุรัตน์ วิทักษาบุตร
ผอ.กองวิชาการและแผนงาน ทต.นครไทย พิษณุโลก
supan2475@gmail.com
ผอ.กองวิชาการและแผนงาน ทต.นครไทย พิษณุโลก
supan2475@gmail.com
แต้งกิ้วจ้าาาา
ตอบลบเกิดที่เช่นกันค่ะขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบนักวิชาการ - นักประวัติศาสตร์บางท่านกล่าวว่า....วันนั้นในอดีต..ไม่มี...พ่อขุนบางกลางท่าว..เจ้าเมืองบางยาง(ปัจจุบันคือ อ.นครไทย จ.พิษณุโลก) ย่อมไม่มีอาณาจักรสุโขทัย..และ..อาจไม่มีราชอาณาจักรสยามไทย ณ วันนี้
ตอบลบ