|
ภาพภูเขา ทุ่งนา กระท่อม มีเสน่ห์เหมือนภาพวาดจากสมุดวาดเขียนในวัยเด็ก คลาสสิกจริงๆ สถานที่ : ตำบลนาบัว อำเภอนครไทย พิษณุโลก บนทางหลวงหมายเลข 1248 ซึ่งแยกออกไปจากทางหลวงหมายเลข 2013 |
|
อำเภอนครไทย แสดงด้วยพื้นที่สีแดง แต่ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองนะครับ ถ้าเป็นเรื่องการเมืองจะต้องเป็นสีอื่นครับ |
วันก่อน (วันไหนก็ไม่รู้) ผมเขียนเรื่องการผจญภัยบนทางหลวงหมายเลข 2013 เป็นการเพ้อเจ้อครั้งแรกของผมบนกระดาน BLOGGER ไม่รู้จะเลยเถิดมากเกินไปหรือเปล่า วันนี้เอาใหม่บนเส้นทางเดิม ภูมิประเทศที่คุ้นเคยของภาคเหนือคือ ภูเขา ภูเขา แล้วก็ภูเขา จนคนอิสานบ่นน้อยใจว่าเหลือภูเขาไว้ให้เขาหน่อยเดียว แต่พิษณุโลกไม่ใช่ภาคเหนือซะทีเดียว ต้องเรียกภาคเหนือตอนล่างเรียกแบบกำกวมซะงั้น แต่มันมีอะไรที่มากกว่านั้นคือวัฒนธรรม เพราะวัฒนธรรมบางส่วนที่ไม่ได้เป็นอะไรที่บอกว่าเป็นภาคเหนือหรือเป็นภาคกลาง แต่เป็นอิสานมากกว่า บางส่วนที่ผมว่าก็คืออำเภอนครไทยนี่เอง
|
แสดงทางหลวงหมายเลข 2013 ช่วงที่ผ่านเข้าตัวอำเภอนครไทย แล้วเลี้ยวขวาออกไป อ.ด่านซ้าย ที่ ต.เนินเพิ่ม |
ผมพูดถึงภูมิประเทศพิษณุโลกก่อนดีกว่า พิษณุโลกมีภูมิประเทศที่แตกต่างกัน อย่างแรกพิษณุโลกมีภูมิประเทศที่เป็นที่ราบแบบภาคกลาง เช่น อำเภอเมือง บางกระทุ่ม พรหมพิราม บางระกำ บางส่วนของวัดโบสถ์ บางส่วนของวังทอง อย่างที่สองมีภูมิประเทศที่เป็นป่าเขาเป็นส่วนใหญ่ เช่น ชาติตระการ นครไทย เนินมะปราง บางส่วนของวังทอง บางส่วนของวัดโบสถ์ (ขนาดภูมิประเทศยังมีสองแบบในอำเภอเดียวกันเลย)
|
ตัวเชื่อมวัฒนธรรมระหว่าง 2 อำเภอ โปรดใช้วิจารณญาณ ในการโดยสาร (รถเสียกลางทางอยู่บ้าง)
|
นครไทยมีอะไรที่เป็นอิสานมาก แต่ขอบอกว่านครไทยไม่ได้มีต้นตระกูลมาจากอิสานนะครับ แต่มีการเคลื่อนย้ายไปมากันมาก ผสมผสานกันทั้งชาติพันธ์และวัฒนธรรม เพราะนครไทยเป็นประตูสู่อิสาน (อิสานเหนือ) จากนครไทยไปจังหวัดเลย แล้วก็เชื่อมไปอิสานตอนบนกันทั้งหมด ทางหลวงหมายเลข 2013 ที่เชื่อมนครไทยกับภาคอิสาน อำเภอด่านซ้ายเป็นพี่น้องที่ใกล้ชิดที่สุดของนครไทย (ถ้าไม่นับชาติตระการ) แต่คนสองอำเภอนี้มักจะเหน็บแนมกันเองว่า "พวกลาว" ภาษาพูด วัฒนธรรม แม้แต่เมนูอาหารไม่ได้แตกต่างกันเลย ถ้ามีงานบุญ งานบวช งานแต่ง เราจะคุ้นเคยกับเสียงเพลงของอิสาน เช่น ลำเต้ย ลำซิ่ง ลำเพลิน
ทางหลวงเส้นนี้ก็เหมือนเส้นทางเชื่อมวัฒนธรรมเข้าด้วยกัน นั่งรถจากพิษณุโลกไปอุดรธานี เที่ยว 08.30 น.ท่านอาจจะเผลอนึกไปว่ากำลังจะออกจากหมอชิตไปอิสานนะครับ เพราะพูดอิสานกับทั้งคันรถ มีทั้งพระสงฆ์ ที่นั่งหลังสุดสงวนไว้ให้พระคุณเจ้าเท่านั้นนะครับ โยมฝรั่งก็มี ฮาไม่ออกถ้าเจอฝรั่งพูดอิสาน มีเมียอิสานแล้วอยู่กับแบบพอเพียง (แต่ฝ่ายหญิงมักจะไม่ค่อยเพียงพอ) ฝรั่งที่ค่อนข้างสูงอายุ จะรีไทร์ตัวเองจากงานแล้วมักจะมาปักหลักที่เมืองไทยเพราะเหตุผลจากค่าครองชีพ (น่านับถือฝรั่งนะครับ หลายๆ คนอยู่ง่ายกินง่าย แต่เมียบางคนกลับพยายามทำตัวไฮโซ พอมีสามีฝรั่งแล้วมันต้องกดดันให้ตัวเองต้องหรูหรา) แม้หน้าตาผมออกแนวลูกครึ่ง แต่ก็พยายามเว้าไทยไว้ก่อนจะลงนครไทย เส้นทางนี้เชื่อมภาคเหนือของประเทศโดยตรงกับภาคอิสานด้วย ทางหลวงเส้นนี้จึงมีความสำคัญมาก ถ้าไม่นับทางหลวงหมายเลข 12 (ตอนพิษณุโลก -ขอนแก่น) ซึ่งมีการใช้รถใช้ถนนที่คับคั่งมาก เส้นทาง NO.12 นี้ผมคุ้นเคยมากที่สุดก็ว่าได้ (เดาออกหรือยังว่าหน้าตาผมออกแนวไหน) เคยได้ชื่อว่าเป็นเส้นทางที่สวยที่สุดเส้นทางหนึ่งของประเทศ (จำไม่ได้ไปเก็บข้อมูลนี้มาจากไหน) นอกจากความสวยแล้วผมบวกความเสียวให้ด้วย เอาไป 8 เต็ม 10 คะแนน
|
รถ พล.-อด. ตัวเชื่อมวัฒนธรรมของสองภาคเข้าด้วยกัน ขณะที่กำลังวิ่งผ่านหน้าวัดนครไทยวราราม รถเที่ยวนี้บรรทุกคนโดยสารที่มีวัฒนธรรมใกล้เคียงกันมาก |
|
ข้างหน้าคือย่านดาวน์ทาวน์ของนครไทย |
ถนนที่ตรงเข้าสู่ตัวอำเภอนครไทยเรียก ถนนอุดรดำริห์ รถโดยสารวิ่งผ่านหลังวัดกลางนครไทย เป็นถนนช่วงที่แคบที่สุด และโค้งมากๆ อยู่ในย่านชุมชนแออัดที่สุด ดูแล้วอันตรายมาก ไม่รู้มีใครเคยเป็นอะไรหรือเปล่า เส้นทางนี้ (อุดรดำริห์) เป็นเส้นทางประวัติศาสตร์นะครับ ผ่านวัดเก่าแก่ถึง 3 วัด เก่าแก่ถึงขนาดอยู่ในยุคเดียวกับสุโขทัย (เล่าไปแล้วไม่เล่าซ้ำ) ผมกำลังหาภาพพระพุทธรูปแกะสลักจากไม้ของวัดนครไทยวรารามมาให้ชม เอาไว้โม้ทีหลัง ผ่านวัดเหนือ (วัดหน้าพระธาตุ) ก็ออกสู่เขตตำบลเนินเพิ่ม มุ่งตะวันออกเฉียงเหนือ จากตำบลเนินเพิ่ม เข้าสู่ตำบลบ่อโพธิ์ อันเป็นตำบลสุดท้ายของอำเภอนครไทย เป็นอำเภอสุดท้ายของภาคเหนือที่เชื่อมภาคอิสาน (อิสานเหนือ) เป็นแหล่งผลิตเกลือสินเธาว์ตั้งแต่ยุคโบราณจนถึงปัจจุบัน เรียกบ่อเกลือพันปี
|
ก่อนเข้าเขต อ.ด่านซ้าย อย่าลืมแวะซื้อเกลือจากบ่อเกลือพันปีนะครับ ที่ตำบลบ่อโพธิ์ รับรองว่าเป็นเกลือในยุคเดียวกับเมื่อพันปีก่อน ผมว่ามันเหมาะสำหรับถนอมอาหาร |